คุยกับพี่ธีระ 108 คำถาม

พี่เริ่มเข้ามาศึกษาธุรกิจอย่างจริงจังตั้งแต่ปลายปี 2009 ช่วงนั้นกำลังเป็นช่วงรอยต่อของชีวิตหลังจากทำงานประจำมาแล้ว 17 ปีเตรียมวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุ 37 ปี พบว่าไม่สามารถเกษียญเร็วและยังสามารถรักษาคุณภาพชีวิตและ Life Style ได้ พอเข้ามาศึกษาอย่างจริงจังพบว่าการที่นูสกินเป็นบริษัทข้ามชาติที่เป็นมหาชน มีคุณภาพสามารถทำเป็นอาชีพได้ระยะยาวอีกทั้งยังสามารถขยายธุรกิจไปในต่างประเทศได้เลยเข้ามาเริ่มต้นธุรกิจ

ก่อนที่จะเปิดบริษัท Global Success Partner, ผมทำงานกับเอสโซ่ประเทศไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ExxonMobil Corporation ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ผมเริ่มต้นจากตำแหน่งวิศวกรโครงการและเคยทำงานในแผนกต่างๆ เช่น การกลั่น, การพัฒนาโครงการ, การจัดหาและลำเลียง จนกระทั่งได้รับตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้จัดการส่วนภูมิภาคด้านการเงินของ ExxonMobil ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผมก่อตั้งและประธานบริษัท Global Success Partner Company Limited ซึ่งให้คำปรึกษาทางธุรกิจสำหรับบริษัทที่ต้องการขยายธุรกิจเข้าสู่ภูมิภาค CLMV เช่น กัมพูชา, ลาว, พม่า และเวียดนาม และยังเคยเป็นกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบของ บริษัทวิคแอนด์ฮุคลันด์ จำกัด (WIIK บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)

หลังจากที่ได้ศึกษาอย่างละเอียดด้วยความที่เป็นบริษัทมหาชนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ทำให้มีความศรัทธาและเชื่อมั่นบริษัท สินค้า และนวัตกรรม และที่สำคัญบริษัทยังมีวิสัยทัศน์และลงทุนในเทคโนโลยีสำหรับอนาคต

ตอนผมเริ่มต้นก็ไม่มีประสบการณ์ครับแต่สำหรับยุคนี้เรามีระบบการศึกษาที่สามารถช่วยให้ทุกคนเริ่มต้นได้อย่างมืออาชีพไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนท่านสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของผมสำหรับตลาดทั้งในและต่างประเทศได้ครับ

จังหวะเวลานี้คือหน้าต่างของโอกาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทุกคนที่ทำธุรกิจ นู สกิน ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโดยรวมมีความผันผวนงานประจำหรือธุรกิจขนาดเล็กมีความเสี่ยงแต่สำหรับนูสกินทุกๆอย่างลงตัวอย่างที่สุดไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรมต่อต้านความชราที่ไม่มีใครเทียบได้ที่ลงลึกระดับยีน และเป็นที่ต้องการของตลาด ความมั่นคงของบริษัท วิสัยทัศน์ของผู้บริหารแผนการจ่ายเงินที่ช่วยให้เรา อีกทั้งการลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคตเช่น iOT (Internet of Thing), AI หรือปัญญาประดิษฐ์และการตรวจดีเอนเอและการผันตัวมาเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจที่สามารถทำออนไลน์ไปได้กว่า 50 ตลาดทั่วโลก บริษัทกำลังจะอยู่ในหน้าต่างการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ การไปเปิดตลาดในประเทศใหม่ที่มีศักยภาพอย่างอินเดีย และที่สำคัญทุกคนสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ สำหรับกลยุทธเราสามารถใช้เครื่องมือธุรกิจทุกอย่างที่บริษัทจัดไว้ให้ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือออนไลน์ อันทันสมัย ทริป โบนัส เอ็กโป เพื่อช่วยในการขยายธุรกิจนอกจากนี้เรามีระบบและทีมงานมืออาชีพที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างธุรกิจอย่างมั่นคงทั้งภายในและต่างประเทศได้อย่างไร้พรหมแดน เส้นทางแห่งความสำเร็จนี้ให้โอกาสกับทุกคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความแตกต่างให้กับโลกใบนี้ อยากให้ทุกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ด้วยกัน

ติดต่อมาพูดคุยกันเริ่มต้นเข้ามาศึกษาระบบ สินค้าและอื่นๆเรามีระบบที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นและเรียนรู้ออนไลน์ได้ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนในโลก

เพื่อความปลอดภัย

• ศึกษาระบบส่วนผสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่มีอาการแพ้ส่วนผสมใดๆ ในผลิตภัณฑ์
• ทดสอบการแพ้: ทาผลิตภัณฑ์ปริมาณเล็กน้อยที่ด้านในของข้อศอกของคุณและรอ 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแพ้ใดๆ คุณก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้
• เริ่มต้นด้วยปริมาณน้อย: ใช้ผลิตภัณฑ์ปริมาณเล็กน้อยในตอนแรกและค่อยๆ เพิ่มปริมาณตามความจำเป็น
• สังเกตผลข้างเคียง: หยุดใช้ผลิตภัณฑ์หากคุณมีอาการแพ้หรือผลข้างเคียงอื่นๆ

ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณา

• สภาพผิวของคุณ: ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว
• สภาวะสุขภาพของคุณ: ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีสภาวะสุขภาพบางอย่าง
• ยาที่คุณทานอยู่: ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจโต้ตอบกับยาที่คุณทานอยู่

หากคุณมีคำถามหรือข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ Nu Skin คุณควรปรึกษาแพทย์

ผลิตภัณฑ์ Nu Skin เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน?

ผลิตภัณฑ์ Nu Skin มีหลายประเภท แต่ละประเภทออกแบบมาเพื่อสภาพผิวที่แตกต่างกัน

โดยทั่วไปแล้ว ผลิตภัณฑ์ Nu Skin เหมาะกับสภาพผิวประเภทต่อไปนี้:

• ผิวธรรมดา: ผลิตภัณฑ์ Nu Skin ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับผิวธรรมดา
• ผิวแห้ง: Nu Skin มีผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแห้งโดยเฉพาะ
• ผิวมัน: Nu Skin มีผลิตภัณฑ์ควบคุมความมันสำหรับผิวมัน
• ผิวแพ้ง่าย: Nu Skin มีผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเลือกผลิตภัณฑ์ Nu Skin ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกผลิตภัณฑ์ Nu Skin ได้แก่:

• ประเภทผิวของคุณ: ผิวของคุณเป็นประเภทใด? ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวแพ้ง่าย?
• ปัญหาผิวของคุณ: คุณมีปัญหาผิวอะไรบ้าง? ริ้วรอย สิว รอยด่างดำ หรือความหมองคล้ำ?
• ความต้องการของคุณ: คุณต้องการผลิตภัณฑ์ที่ทำอะไร? ให้ความชุ่มชื้น ควบคุมความมัน ลดริ้วรอย หรือปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ?

ระยะเวลาที่ใช้ในการเห็นผลลัพธ์จากผลิตภัณฑ์ Nu Skin นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น:

• ผลิตภัณฑ์ที่ใช้: ผลิตภัณฑ์ Nu Skin แต่ละชนิดมีสูตรและวัตถุดิบที่แตกต่างกัน บางผลิตภัณฑ์อาจเห็นผลลัพธ์ได้เร็วกว่าผลิตภัณฑ์อื่น
• สภาพผิวของคุณ: สภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน ผู้ที่มีผิวแห้งอาจใช้เวลาเห็นผลลัพธ์นานกว่าผู้ที่มีผิวมัน
• ความรุนแรงของปัญหาผิวของคุณ: ผู้ที่มีปัญหาผิวรุนแรงอาจใช้เวลาเห็นผลลัพธ์นานกว่าผู้ที่มีปัญหาผิวเล็กน้อย
• การใช้ผลิตภัณฑ์: สิ่งสำคัญคือต้องใช้ผลิตภัณฑ์ Nu Skin ตามคำแนะนำบนฉลาก การใช้ผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้น
• ไลฟ์สไตล์ของคุณ: ไลฟ์สไตล์ของคุณมีผลต่อสุขภาพผิวของคุณ การทานอาหารที่ดี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์จากผลิตภัณฑ์ Nu Skin ได้เร็วขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใช้ Nu Skin ส่วนใหญ่เริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 4-8 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม บางคนอาจใช้เวลาเห็นผลลัพธ์นานกว่า 12 สัปดาห์

สิ่งสำคัญคือต้องอดทนและใช้ผลิตภัณฑ์ Nu Skin อย่างสม่ำเสมอ หากคุณไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่ต้องการ คุณควรปรึกษาตัวแทนจำหน่าย Nu Skin หรือแพทย์ผิวหนัง

ธุรกิจ Nu Skin ทำงานอย่างไร?

Nu Skin เป็นบริษัทขายตรงระดับโลกที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริม และอุปกรณ์ความงาม บริษัทดำเนินธุรกิจผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายอิสระที่เรียกว่า Brand Partner

Brand Partner ของ Nu Skin ซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทในราคาขายส่งและขายต่อให้กับลูกค้าในราคาปลีก Brand Partner ยังได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการขายผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเอง และจากการขายผลิตภัณฑ์ของ Brand Partner อื่นๆ ในเครือข่ายของพวกเขา

มีสองวิธีหลักๆ ในการสร้างรายได้จากธุรกิจ Nu Skin:

1. การขายปลีก: Brand Partner ขายผลิตภัณฑ์ Nu Skin ให้กับลูกค้าในราคาปลีก

2. การสร้างทีม: Brand Partner สรรหาและฝึกอบรม Brand Partner ใหม่ๆ และรับค่าคอมมิชชั่นจากการขายของ Brand Partner เหล่านั้น

Nu Skin ให้การสนับสนุนสมาชิกหลายประการ ดังนี้:

การฝึกอบรมและการศึกษา:

• Nu Skin เสนอโปรแกรมการฝึกอบรมและการศึกษาที่หลากหลายเพื่อช่วยให้สมาชิกเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ธุรกิจ และวิธีการประสบความสำเร็จ โปรแกรมเหล่านี้มีทั้งแบบออนไลน์และแบบตัวต่อตัว
• Nu Skin ยังมีแหล่งข้อมูลออนไลน์มากมาย เช่น เว็บไซต์ วิดีโอ และเอกสาร เพื่อช่วยให้สมาชิกเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจ

เครื่องมือทางการตลาด:

• Nu Skin เสนอเครื่องมือทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อช่วยให้สมาชิกสร้างธุรกิจของพวกเขา เครื่องมือเหล่านี้รวมถึงเว็บไซต์ ธุรกิจ โซเชียลมีเดีย และเครื่องมือการสร้างลูกค้าสัมพันธ์

การสนับสนุนจากผู้นำ:

• Nu Skin มีเครือข่ายผู้นำที่แข็งแกร่งที่สามารถให้คำแนะนำและการสนับสนุนแก่สมาชิก ผู้นำเหล่านี้มักมีประสบการณ์ในการสร้างธุรกิจ Nu Skin และสามารถแบ่งปันเคล็ดลับและกลยุทธ์กับสมาชิกอื่นๆ

กิจกรรมและงานอีเวนต์:

• Nu Skin จัดกิจกรรมและงานอีเวนต์ต่างๆ ตลอดทั้งปี กิจกรรมเหล่านี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับสมาชิกในการเชื่อมต่อกับผู้อื่น เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจ และสร้างแรงบันดาลใจ

การสนับสนุนจากบริษัท:

• Nu Skin มีทีมฝ่ายบริการลูกค้าที่สามารถให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนแก่สมาชิก บริษัทมีศูนย์บริการลูกค้าทั่วโลกที่สามารถตอบคำถามและแก้ไขปัญหา

Nu Skin : มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?

Nu Skin เป็นบริษัทที่ถูกกฎหมาย ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 35 ปี จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือหลายแห่ง

Nu Skin ได้รับรางวัลและการรับรองหลายรางวัล ซึ่งรวมถึง:

รางวัล:

• รางวัล Stevie Awards: Nu Skin ได้รับรางวัล Stevie Awards หลายรางวัลในหมวดหมู่ต่างๆ เช่น รางวัล “บริษัทขายตรงที่ดีที่สุด” รางวัล “ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ดีที่สุด” และรางวัล “บริการลูกค้าที่ดีที่สุด”
• รางวัล Top Workplace Awards: Nu Skin ได้รับการยกย่องให้เป็น “สถานที่ทำงานยอดเยี่ยม” โดยหลายองค์กร เช่น Inc. Magazine Fortune Magazine และ Glassdoor
• รางวัล Ethics & Compliance Awards: Nu Skin ได้รับรางวัล Ethics & Compliance Awards จากหลายองค์กร เช่น Ethisphere Institute และ Compliance & Ethics Magazine

การรับรอง:

• การรับรอง ISO 9001: Nu Skin ได้รับการรับรอง ISO 9001 มาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการคุณภาพ
• การรับรอง ISO 14001: Nu Skin ได้รับการรับรอง ISO 14001 มาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม
• การรับรอง Leaping Bunny: Nu Skin ได้รับการรับรอง Leaping Bunny ซึ่งเป็นการรับรองว่าผลิตภัณฑ์ของ Nu Skin ไม่ได้ทดสอบกับสัตว์

นอกจากนี้ Nu Skin ยังเป็นสมาชิกขององค์กรการค้าหลายแห่ง เช่น Direct Selling Association และ Personal Care Products Council

Nu Skin สนับสนุนองค์กรการกุศลหลายแห่งผ่านมูลนิธินูสกิน พลังแห่งความดี

มูลนิธินูสกิน พลังแห่งความดี ก่อตั้งขึ้นในปี 2539 มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นไปที่:

• การศึกษา: มูลนิธิสนับสนุนทุนการศึกษา โปรแกรมการอ่าน และโครงการพัฒนาครู
• สุขภาพ: มูลนิธิสนับสนุนการวิจัยทางการแพทย์ โปรแกรมด้านโภชนาการ และโครงการบริการสุขภาพ
• เด็ก: มูลนิธิสนับสนุนบ้านเด็กกำพร้า โรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ และโครงการพัฒนาเด็ก
• ภัยพิบัติ: มูลนิธิให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติและสนับสนุนโครงการฟื้นฟู

โครงการที่โดดเด่นบางส่วนของมูลนิธินูสกิน พลังแห่งความดี ได้แก่:

• โครงการ Nu Skin for Children: โครงการนี้มอบทุนการศึกษา การดูแลสุขภาพ และโอกาสในการพัฒนาเด็กด้อยโอกาสทั่วโลก
• โครงการ Heart to Heart: โครงการนี้มอบอาหาร น้ำ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับผู้ประสบภัยพิบัติ
• โครงการ Empowering Minds: โครงการนี้มอบทุนการศึกษาและการฝึกอบรมให้กับผู้หญิงในประเทศกำลังพัฒนา

Nu Skin ยังสนับสนุนองค์กรการกุศลอื่นๆ อีกมากมายผ่านการบริจาคผลิตภัณฑ์ เงินทุน และอาสาสมัคร บริษัทกระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมการกุศลและสนับสนุนองค์กรที่พวกเขาห่วงใย

นอกจากนี้ Nu Skin ยังเป็นสมาชิกขององค์กร “1% for the Planet” ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นที่จะบริจาค 1% ของยอดขายสุทธิเพื่อสนับสนุนสาเหตุด้านสิ่งแวดล้อม

สรุป:

Nu Skin สนับสนุนองค์กรการกุศลหลายแห่งผ่านมูลนิธินูสกิน พลังแห่งความดี มูลนิธิสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นไปที่การศึกษา สุขภาพ เด็ก ภัยพิบัติ และสิ่งแวดล้อม Nu Skin ยังสนับสนุนองค์กรการกุศลอื่นๆ อีกมากมายผ่านการบริจาคผลิตภัณฑ์ เงินทุน และอาสาสมัคร

• การเติบโตของตลาดความงามและสุขภาพ: ตลาดความงามและสุขภาพทั่วโลกมีขนาดใหญ่และคาดว่าจะเติบโตต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า Nu Skin อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะได้ประโยชน์จากการเติบโตนี้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและฐานลูกค้าทั่วโลก
• โอกาสในตลาดใหม่: Nu Skin มีโอกาสขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะในเอเชียและอเมริกาใต้ ตลาดเหล่านี้มีประชากรจำนวนมากและกำลังเติบโต และผู้คนในตลาดเหล่านี้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินกับผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพมากขึ้น
• นวัตกรรม: Nu Skin ลงทุนอย่างหนักในงานวิจัยและพัฒนา บริษัทมีทีมนักวิทยาศาสตร์ที่มีทักษะสูงที่ทำงานเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นวัตกรรมนี้สามารถช่วยให้ Nu Skin รักษาความได้เปรียบในการแข่งขันและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ